ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดซื้อขายอ่อนค่า ตลาดกลับมากังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน ก.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก โดยดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.8% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือน ก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2%
ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดอ่อนค่า สวนทางดอลลาร์อ่อน
ราคาทองวันนี้ เปิดตลาดไม่ขยับ ราคาต่างประเทศฟื้นเล็กน้อย แต่บาทอ่อน
ค่าเงินบาทอ่อนค่า เปิดตลาดวันจันทร์
เมื่อวันศุกร์ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,853 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 349 ล้านบาท
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อปิดความเสี่ยง
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนหน้า รวมถึงคืนวันจันทร์ก่อน (วันหยุดของตลาดการเงินไทย) เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่อง (แกว่งตัวในกรอบ 35.03-35.34 บาทต่อดอลลาร์) กดดันโดยการปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ ตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดผันผวนและการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เริ่มกลับมามองว่า เฟดมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ นอกจากนี้ โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวลงก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงเช่นกัน
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังตลาดเพิ่มโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ย
ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่นและจีน รวมถึงจับตารายงานการประชุมล่าสุดของเฟด และติดตาม ความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคเพื่อไทย
ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนกรกฎาคม โดยบรรดานักวิเคราะห์ประเมินว่า ยอดค้าปลีก อาจโตกว่า +0.4%m/m หนุนโดย Amazon Prime Day ที่กระตุ้นยอดขายสินค้าออนไลน์ กอปรกับภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงที่ผ่านมา อาจยังหนุนให้ผู้คนออกมาใช้จ่าย โดยเฉพาะในส่วนของการใช้จ่ายภาคการบริการ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางส่วน (รวมถึงเรา) มองว่า การบริโภคในสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง ตามการชะลอลงของการจ้างงาน, เงินออมส่วนเกิน (Excess Savings) ที่ทยอยหมดลง, ภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นตามการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและการบริโภคสไตล์ “ซื้อก่อน ผ่อนจ่ายทีหลัง” ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้เรายังคงมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น ทำให้เฟดอาจไม่สามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้
อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด ผ่านรายงานการประชุมเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) ซึ่งเราคาดว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ก็อาจยังสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อ แต่ก็อาจระบุว่า เฟดนั้นเข้าใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของการขึ้นดอกเบี้ยได้เช่นกัน
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า แม้ว่าปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่ายังคงอยู่ แต่โมเมนตัมการอ่อนค่าเริ่มแผ่วลง โดยหากการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจนมากขึ้น เงินบาทก็สามารถกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ตามฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ
อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนจากฝั่งตลาดการเงินจีน ที่อาจกดดันให้เงินหยวนอ่อนค่าลง กระทบค่าเงินบาทได้ ในกรณีที่ตลาดปิดรับความเสี่ยง อนึ่ง เราประเมินแนวต้านแรกของเงินบาทแถวโซน 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนแนวรับแรกจะอยู่ในช่วง 34.90-35.00 บาทต่อดอลลาร์